วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สรุปบทที่ 7 อาร์เรย์และฟังก์ชั่นจัดการสตริง

สรุปบทที่ 7 อาร์เรย์และฟังก์ชั่นจัดการสตริง
อาร์เรย์หรือตัวแปรชุดเป็นตัวแปรประเภทหนึ่งที่เหมาะกับการนำไปใช้เพื่อการประมวล  ผลกลุ่มชุดข้อมูลเดียวกัน ดังนั้น จึงมีแนวทาง  การแก้ไขเพื่อให้เราสามารถอ้างอิงตัวแปร เพื่อนำมาใช้งานได้ง่ายขึ้นที่เรียกว่าตัวแปรชนิดอาร์เรย์ โดยอาร์เรย์จะดำเนินการเสมือน  กับแบ่งหน่วยความจำออกเป็นช่องๆ  (Elements) และจะใช้เลขดัชนี (Index) หรือที่  เรียกว่า  ซับสคริปต์ (Supscipt) เป็นตัวชี้  ตำแหน่งของอิลิเมนต์นั้นๆ ซึ่งภาษาซีจะใช้  สัญลักษณ์  [n] เป็นตัวชี้ระบุตำแหน่ง

ชนิดของตัวแปรอาร์เรย์: อาร์เรย์ ยังสามารถประกาศได้หลายชนิดด้วยกันซึ่งประกอบด้วยอาร์ 1 มิติอาร์เรย์ 2  มิติ และอาร์เรย์ 3 มิติ แต่โดยส่วยใหญ่  อาร์เรย์ 1 มิติและอาร์เรย์ 2 มิติ จะถูกนำมาใช้งานมากที่สุด 1. อาร์เรย์ 1 มิติ (One Dimension Array) เป็น

ตัวแปรอาร์เรย์แบบมิติเดียว ที่มีลักษณะ  เสมือนตู้เก็บ

ความจำที่เรียงกันะป็นลำดับ


2. 
อาร์เรย์ 2 มิติ (Two Dimension Array) รูปแบบของอาร์เรย์ 1 มิติมาแล้ว ซึ่งจะพบว่าจะจัดเก็บข้อมูลเป็นแนวราบแบบแถวลำดับ 

  
ฟังก์ชั่นจัดการสตริง: สตริงหรือข้อความจะถูกจัดเก็บอยู่ในลักษณะของอาร์เรย์ของอักขระอีกทั้งยังมีการผนวกรหัส \0 ไว้ที่ท้ายข้อมูลเพื่อให้ทราบว่าเป็นจุดสิ้นสุดของข้อความนั้นๆ



1.ฟังก์ชั่น strcpy() เป็นฟังก์ที่นำมาใช้เพื่อคัดลอกข้อความไปเก็บไว้ในตัวแปรหรือคัดลอกจากตัวแปรสตริงหนึ่ง


ไปเก็บไว้ยังตัวแปรอีกสตริงหนึ่ง

   


2. ฟังก์ชั่น strlen() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้เพื่อขอทราบข้อมูลตัว  อักขระที่บรรจุอยู่ในสติง

 
 3. ฟังก์ชั่น strcmp() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้เปรียบเทียบสตริง 2  สตริงว่าตรงกันหรือไม่โดยหากผลตรวจสอบมีผลตรงกันก็จะรีเทิร์นค่าเป็น 0 แต่ถ้าผลไม่ตรงกันก็จะรีเทิร์นค่าที่เกิดจากผลต่างของอักขระ ซึ่งเป็นผลต่างระหว่างเลขรหัสแอสกีของค่าทั้งสอง


 4. ฟังก์ชั่น strcat() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้เพื่อผนวกสตริง 2  สตริงเข้าด้วยกันโดยผลที่ได้จะเก็บไว้ที่ตัวแปรตัวแรกข้อควรระวังคือการเชื่อมสตริงจะทำให้เกิดความยาวของข้อความมากขึ้น ดังนั้น ขนาดความกว้างของตัวแปรที่จัดเก็บจะต้องมีความยาวเพียงพอต่อการจัดเก็บข้อความ

 5. ฟังก์ชั่น strlwr() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้เพื่อแปลงอักขระในสตริงให้เป็นตัวพิมพ์เล็ก  

6. ฟังก์ชั่น strupr() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้เพื่อแปลงอักขระในสตริงให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่  

7. ฟังก์ชั่น strrev() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้งานเพื่อสลับตำแหน่งข้อความแบบกลับหัว (Reverse) เช่น ข้อความ  123 เมื่อผ่านฟังก์ชั่น strrev() ก็จะเป็น 321  เป็นต้น


การอ่านและแสดงผลค่าของสตริง
 ฟังก์ชั่น scant() และ ฟังก์ชั่น printf()  สามารถนำมาใช้เพื่อการรับข้อมูลชนิดขัอ  ความ และสั่งพิมพ์ข้อความ ในภาษาซียังมี  ฟังก์ชั่นเพื่อการรับค่าข้อมูลสตริง และพิมพ์  ข้อความสตริงโดยตรง ด้วยฟังก์ชั่น gets()  และ ฟังก์ชั่น puts() ซึ่งฟังก์ชั่นทั้งสอง ถูก  ประกาศใช้งานอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์  <stdio.h>

1. ฟังก์ชั่น gets() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้รับค่าสตริง
2.ฟังก์ชั่น puts() เป็นฟังก์ชั่น ที่นำมาใช้พิมพ์ข้อความ หรือ  ตัวแปรสตริง

การแปลงข้อความที่เป็นตัวเลขเป็นค่าตัว  เลขที่นำไปคำนวณได้: ตัวแปรสตริงที่นำมาใช้เพื่อรับข้อมูลสามารถเป็นได้ทั้งตัวอักษรหรือตัวเลขก็ได้แต่ถ้าเป็น  ตัวเลขล้วนๆถือว่าเป็นข้อความที่ไม่สามารถนำไปคำนวณได้แต่ทั้งนี้หากมีการยำข้อความที่เป็นตัวเลขมาผ่านฟังก์ชั่นแปรสตริงให้เป็นตัวเลขก็สามารถนำไปใช้เพื่อการคำนวณได้    1. ฟังก์ชั่น atof() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้แปลงข้อความตัวเลขมาเป็นค่าตัวเลขที่สามารถนำไปคำนวณได้โดยกำหนดให้มีชนิดข้อมูลเป็น double 2. ฟังก์ชั่น atoi() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้แปลงข้อความตัวเลขมาเป็นค่าตัวเลขที่สามารถนำไปคำนวณได้โดยกำหนดให้มีชนิดข้อมูลเป็น int 3. ฟังก์ชั่น atol() เป็นฟังก์ชั่นที่นำมาใช้แปลงข้อความตัวเลขมาเป็นค่าตัวเลขที่สามารถนำไปคำนวณได้โดยกำหนดให้มีชนิดข้อมูลเป็น long  int 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น